“ลำไส้” มีหน้าที่สำคัญอย่างไรในร่างกาย
Sep 18, 2023
ลำไส้มีหน้าที่สำคัญอย่างไร?
คนส่วนใหญ่มักนึกถึงสุขภาพของหัวใจ ปอดและสมอง มาก่อนอวัยวะอื่น แต่รู้หรือไม่ว่าลำไส้ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่ากันในเรื่องของสุขภาพ ในความเป็นจริง ระบบทางเดินอาหารเปรียบเสมือนเครื่องฟอกของเสียที่ทำให้ร่างกายสะอาดและเป็นเครื่องผลิตพลังงาน ระบบการย่อยอาหารที่ดีมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย เมื่อระบบการย่อยอาหารขาดสมดุล ร่างกายจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้มีอาการเหนื่อยล้า ขาดสมาธิหรือนำไปสู่โรคร้ายแรงเช่น มะเร็ง ดังนั้นการดูแลระบบย่อยอาหารให้แข็งแรงจึงช่วยส่งเสริมการทำงานของหัวใจ ปอดและสมอง เพื่อให้มีสุขภาพโดยรวมที่ดี
ความสำคัญของระบบย่อยอาหารที่มีต่อสุขภาพที่ดีโดยรวม
ระบบย่อยอาหารประกอบด้วยระบบทางเดินอาหาร (GI) ตับ ตับอ่อนและถุงน้ำดี
โดยระบบทางเดินอาหารจะมีอวัยวะที่มีลักษณะคล้ายท่อกลวง ยาวคดเคี้ยวจากปากไปสู่ทวารหนัก อวัยวะที่เป็นท่อกลวงนี้ประกอบด้วยปาก หลอดอาหาร ท้อง ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ในส่วนของตับ ตับอ่อนและถุงน้ำดีเป็นอวัยวะของระบบย่อยอาหารที่มีลักษณะเป็นเนื้อแน่น
อวัยวะของร่างกายเหล่านี้มีความสำคัญหลายอย่าง ซึ่งอวัยวะเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามปกติและแข็งแรง โดยต้องการโปรตีน ไขมัน วิตามินและน้ำเพื่อเป็นสารอาหารให้แก่ร่างกาย หลังจากได้รับสารอาหารระบบย่อยอาหารจะย่อยสารอาหารเหล่านี้เป็นชิ้นส่วนเล็กๆพอที่ร่างกายจะดูดซึมได้ หลังจากนั้นร่างกายจะนำสารอาหารไปใช้เป็นพลังงาน ทำให้ร่างกายเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์
หลังจากระบบย่อยอาหารทำหน้าที่ให้สารอาหารแก่ร่างกาย
หน้าที่ทำความสะอาดมีความสำคัญพอๆกับให้สารอาหารแก่ร่างกาย ซึ่งจำเป็นต้องกำจัดของเสียจากการย่อยอาหาร การทำความสะอาด หมายรวมถึงเศษอาหารที่ร่างกายไม่ได้ย่อย ของเหลวและเซลล์เก่าจากเยื่อบุภายในลำไส้ ซึ่งทำโดยการดูดซึมน้ำและเปลี่ยนของเสียจากน้ำให้กลายเป็นอุจจาระ กระบวนการทำงานของลำไส้ที่เรียกว่า Peristalsis หรือการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อในทางเดินอาหารช่วยทำให้อุจจาระเคลื่อนไหวไปยังทวารหนักและลำไส้ตรงซึ่งอยู่ปลายสุดของลำไส้จะเก็บอุจจาระไว้จนกระทั่งถูกเบ่งออกมาจากทวารหนักระหว่างการเคลื่อนไหวของลำไส้
ปัญหาสุขภาพลำไส้ที่พบบ่อย
มะเร็งลำไส้หรือที่เรียกว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่หรือมะเร็งลำไส้ตรง เป็นโรคที่พบได้มากที่สุดโรคหนึ่งของลำไส้ อาการของมะเร็งในระยะที่ 3 และ 4 จะทำให้มีอาการเหนื่อยล้า อ่อนแรงลงและ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ รวมถึงความรู้สีกถ่ายไม่สุด ลักษณะของอุจจาระมีการเปลี่ยนแปลงมานานกว่าหนึ่งเดือน
อีกโรคหนึ่งที่พบได้บ่อยคือ โรคลำไส้อักเสบเรื้อรังซึ่งเกิดจากการอักเสบของระบบทางเดินอาหารเรื้อรัง หากเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานจะทำให้ลำไส้เสียหาย อาการของโรคทั่วๆไปคือรู้สึกไม่สบายท้องหรือปวดท้อง มีแก๊สในท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ ท้องเสีย ท้องผูกและ/หรืออาเจียน
นอกจากนี้ ยังมีโรคทางทวารหนักที่มีผลกระทบต่อทวารหนักและลำไส้ตรง ซึ่งรวมถึงโรคริดสีดวงทวาร แผลปริที่ขอบทวารหนักและโรคฝีคัณฑสูตร ทำให้เกิดอาการ เช่น เจ็บปวด คัน แสบร้อน เลือดไหลและ/หรือบวม อาการเหล่านี้มีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของผู้ป่วย
จะรักษาสุขภาพของลำไส้ได้อย่างไร
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ควรรับประทานผัก ผลไม้และธัญพืชให้มาก อาหารประเภทนี้มีคุณค่าทางโภชนาการและมีกากใยสูง ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้และทวารหนัก
อาหารประเภทเนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมูและเนื้อแกะ ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้และทวารหนักมากขึ้น เช่นเดียวกับอาหารแปรรูป เช่น ฮอทดอก ไส้กรอก และอาหารมื้อเที่ยงหรือมื้อว่างจำพวกเนื้อสัตว์ที่พร้อมรับประทาน (cooked meats) เนื้อตัดเย็น (cold cuts) และเนื้อเดลี่
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ : หากคุณไม่ออกกำลังกาย คุณมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งลำไส้และทวารหนักเพิ่มขึ้น การออกกำลังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
ควบคุมน้ำหนัก : ภาวะน้ำหนักตัวเกินหรืออ้วนเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งลำไส้หรือมะเร็งทวารหนัก การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ร่วมกับการออกกำลังกายช่วยควบคุมน้ำหนักและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
ไม่สูบบุหรี่ : หากสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานอาจมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้หรือมะเร็งทวารหนักมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : การบริโภคแอลกอฮอล์มีความเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งลำไส้และทวารหนัก ดังนั้นทางที่ดีทคือ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่หากคุณต้องการดื่มแลกอฮอลล์ สมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (American Cancer Society) แนะนำว่า ผู้ชายไม่ควรดื่มเกินสองแก้วต่อวัน และผู้หญิงไม่ควรเกินหนึ่งแก้วต่อวัน